คำถามที่หลายคนสงสัยในยุคที่ AI เริ่มมีบทบาทในการค้นหา
เมื่อพูดถึงการทำ SEO (Search Engine Optimization) หลายคนคงคุ้นเคยกับการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกใจ Google เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ของหน้าผลการค้นหา แต่เมื่อ Google มีการปรับอัลกอริทึมใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2023 ที่มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาอย่างจริงจัง หลายคนจึงเกิดคำถามสำคัญว่า…
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggle“Google กำลังเปลี่ยนเกมใช่หรือไม่? แล้ว SEO จะหายไปจริงหรือเปล่า?”
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจถึง:
แนวทางล่าสุดของ Google
อัลกอริทึมใหม่ที่มีผลต่อ SEO
ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ค้นหา
และสิ่งที่คนทำ SEO ควรปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดได้ในอนาคต
1. Google ปรับอัลกอริทึมใหม่บ่อยแค่ไหน?
Google มีการปรับอัลกอริทึมหลายร้อยครั้งในแต่ละปี โดยบางการเปลี่ยนแปลงเป็นเพียงการปรับจูนเล็กน้อย แต่บางการเปลี่ยนแปลงเป็นระดับ “Core Update” ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่ออันดับของเว็บไซต์
ตัวอย่างอัลกอริทึมหลักที่มีผลต่อ SEO ได้แก่:
Google Panda – ให้ความสำคัญกับคุณภาพเนื้อหา
Google Penguin – ตรวจสอบลิงก์คุณภาพ
Hummingbird – เข้าใจความหมายแท้จริงของคำค้น
BERT และ MUM – ใช้ AI ช่วยตีความคำค้นหาที่ซับซ้อน
Helpful Content Update – เน้นเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้อ่านจริง ๆ
📌 สรุป:
Google ไม่ได้แค่ “ดูคีย์เวิร์ด” เหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่กำลังพัฒนาไปสู่การ “เข้าใจเจตนาของผู้ใช้งาน” อย่างแท้จริง

2. การมาของ SGE (Search Generative Experience)
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงใหญ่คือการเปิดตัว SGE – Search Generative Experience ซึ่งเป็นระบบค้นหาที่ใช้ AI ในการตอบคำถามของผู้ใช้งานโดยตรงในหน้าแรกของ Google โดยไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ใดเลย
ตัวอย่างเช่น:
หากคุณค้นหาคำว่า “วิธีดูแลผิวหน้าให้ขาวใส” – แทนที่ Google จะแสดงรายชื่อเว็บไซต์ 10 อันดับแรกเพียงอย่างเดียว SGE จะสร้างบทความสั้น ๆ จากแหล่งข้อมูลหลายเว็บมาสรุปไว้ให้ทันที
🤔 แล้วแบบนี้… “SEO ยังมีความหมายอยู่ไหม?”
3. SEO จะหายไปจริงหรือไม่?
คำตอบคือ: ไม่หายไป แต่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
แม้การเปลี่ยนแปลงของ Google อาจทำให้การเข้าถึงเว็บไซต์โดยตรงลดลงในบางกรณี แต่ SEO ยังมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพียงแต่ผู้ทำ SEO ต้องปรับวิธีคิดและวิธีทำงาน ดังนี้:
3.1 จาก “แค่ติดอันดับ” → สู่ “การให้คุณค่ากับผู้ใช้งาน”
Google ต้องการแสดงเฉพาะเนื้อหาที่มีประโยชน์ และให้คำตอบอย่างแท้จริงแก่ผู้ใช้งาน
ถ้าคอนเทนต์ของคุณให้คุณค่า – คุณยังมีโอกาสแสดงผลอยู่เสมอ
3.2 จาก “คำค้นทั่วไป” → สู่ “คำถามเชิงลึก”
ผู้ใช้งานเริ่มใช้ Google ด้วยคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น
“ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับคนเป็นสิวคืออะไร”
“ทำไมเครื่องปรับอากาศถึงเย็นช้าในหน้าร้อน”
การสร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามเฉพาะแบบนี้จะยังคงสำคัญมากสำหรับ SEO
4. อัลกอริทึมใหม่กระทบใครบ้าง?
4.1 เว็บไซต์ที่เนื้อหาซ้ำซากหรือคล้ายเว็บอื่น
Google ตรวจสอบเนื้อหาที่เกิดจาก AI หรือ Copy จากเว็บไซต์อื่นอย่างเข้มงวด หากคุณใช้ AI ช่วยเขียนบทความแบบไม่ปรับแต่งเลย อาจโดนลดอันดับ
4.2 เว็บไซต์ที่ใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไป (Keyword Stuffing)
การยัดคีย์เวิร์ดแบบไม่เป็นธรรมชาติ ถือว่าเป็น Black Hat SEO ซึ่ง Google ไม่ยอมรับ
4.3 เว็บไซต์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
ไม่มีแหล่งอ้างอิง
ไม่มีผู้เขียนบทความที่ระบุชัดเจน
ไม่มีหน้า “เกี่ยวกับเรา” หรือ “ติดต่อเรา”
5. แนวทางใหม่ของคนทำ SEO ในยุคอัลกอริทึมใหม่
✅ 1. โฟกัสที่ “Search Intent” หรือเจตนาของผู้ค้นหา
เข้าใจว่าผู้ใช้ต้องการคำตอบแบบไหน
สร้างเนื้อหาที่ตอบตรงคำถาม เช่น แบบลิสต์ แบบ How-to หรือแบบเปรียบเทียบ
✅ 2. ปรับคอนเทนต์ให้เหมาะกับ SGE
ทำเนื้อหาให้กระชับ ชัดเจน และตรงประเด็น
ใช้ Bullet Point / Table เพื่อให้ AI ของ Google ดึงไปแสดงง่ายขึ้น
✅ 3. ใช้ประสบการณ์จริงของผู้เชี่ยวชาญ (EEAT)
E: Experience
E: Expertise
A: Authority
T: Trustworthiness
Google ให้คะแนนสูงกับเนื้อหาที่มีผู้เขียนที่เชี่ยวชาญจริง เช่น แพทย์ นักกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ฯลฯ
✅ 4. ไม่ละเลย SEO ดั้งเดิม
ตั้ง Title Tag และ Meta Description อย่างมืออาชีพ
ใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม
ใส่ Internal และ External Link ที่มีคุณภาพ
สร้าง Backlink อย่างปลอดภัย
6. ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ปรับตัวได้ดีในยุคอัลกอริทึมใหม่
เว็บไซต์ด้านสุขภาพที่เขียนโดยแพทย์ พร้อมอ้างอิงจากงานวิจัย
เว็บไซต์รีวิวสินค้าแบบเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียจากประสบการณ์จริง
บล็อกท่องเที่ยวที่มีภาพ วิดีโอ และข้อมูลเจาะลึกเฉพาะสถานที่
ธุรกิจท้องถิ่นที่ทำ Local SEO และได้รับรีวิวจริงจากลูกค้า
7. ข้อควรระวังในการทำ SEO หลังการปรับอัลกอริทึม
อย่าใช้ AI สร้างบทความอย่างเดียวโดยไม่ตรวจสอบ
อย่าเน้นปริมาณคอนเทนต์มากเกินคุณภาพ
อย่าใช้ลิงก์จากเว็บไซต์สแปม หรือซื้อ Backlink แบบไม่ปลอดภัย
อย่าคิดว่าติดหน้าแรกแล้วจะนิ่งได้ตลอดไป – ต้องอัปเดตเนื้อหาเสมอ
8. บทสรุป: SEO ยังอยู่ และยังสำคัญ…แต่คุณต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด”
SEO ไม่ใช่แค่การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับอีกต่อไป แต่คือการ “สร้างประสบการณ์ข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับผู้ใช้งานจริง”
หากคุณสามารถ:
✅ สร้างเนื้อหาที่ตอบคำถามจริง
✅ ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้
✅ ปรับเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย
✅ ไม่พยายามโกงระบบ
Google จะยังคงแสดงเว็บไซต์ของคุณให้กับผู้ใช้งานเสมอ — แม้ในยุคที่ AI และ SGE กำลังมาแรงก็ตาม
ใส่ความเห็น